
Order Lepidoptera (หนอนบุ้ง ,หนอนร่าน)
หนอนบุ้งเป็นตัวอ่อนของผีเสื้อซึ่งอยู่ใน Order Lepidoptera โดยบุ้งหลายชนิดจะมีขน
อยู่บริเวณลำตัว ขนที่ทำให้เกิดอาการแพ้เรียกว่า urticating hairs
หนอนบุ้งมีอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่พบบ่อยในประเทศไทย เช่น หนอนผีเสื้อกลางคืน
(Gypsy moth) เมื่อสัมผัสถูกขนพิษของหนอนบุ้ง จะทำให้เกิดอาการแสบร้อนและคัน
ทันที เนื่องจากในขนพิษ มีสารพิษที่ทำให้เกิดผื่นแพ้ขึ้นที่ผิวหนัง จากนั้นจะบวม ชา เป็นผื่นลมพิษพิษจะกระจายไปบริเวณข้างเคียง ทำให้เกิดการอักเสบ
บวม เช่น ที่ต่อมน้ำเหลือง อาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ชา เป็นอัมพาต และช็อคได้ อาการจะเป็นมากในผู้ที่มีประวัติแพ้ ในกรณีขนพิษเข้าไปในลูกตาอาจทำให้ตาบอดได้
วิธีเอาขนบุ้งออกจากส่วนที่โดนขนบุ้ง ให้เอาข้าวเหนียวตำให้เหนียวแล้วเอามากลิ้งในส่วนที่โดนขนบุ้งแล้วขนบุ้งจะติดออกมา
หรือหามีเทปกาวก็เอาเทปกาวนาบตรงส่วนที่โดนขนบุ้งแล้วขนบุ้งก็จะติดออกมาอีกอย่างเป็นวิธีโบราณที่ผมเองสมัยอยู่บ้านนอกก็เคยใช้วิธีนี้แต่ไม่ขอยืนยันนะครับว่าได้ผลหรือไม่ มันนานมากจนเกินที่จะจำ ก็คือเอาผมของตัวเองถูตรงที่โดนขนบุ้ง
เหมือนเป็นการแก้เคล็ดขณะที่ถูอยู่นั้นให้พูดว่า ขนมึงแพ้ขนกู ว่าซ้ำอยู่อย่างนั้น




คุ่น หรือที่รู้จักกันในภาษากลางว่า (ริ้นดำ)สำหรับคนที่อาศัยในเมืองแล้วอาจจะไม่คุ้นเคย หรือรู้จักมากนัก แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่นิยมธรรมชาติแล้วมักจะรู้จักกับเจ้าแมลงที่เป็นศัตรูตัวฉกาจที่มาก่อกวน และสร้างความรำคาญให้เสมอๆเป็นอย่างดี
แมลงชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายแมลงวันแต่จะมีขนาดเล็กกว่าออกหากินกลางวัน โดยจะดูดเลือดของคน และสัตว์เป็นอาหาร
ซึ่งเฉพาะตัวเมียเท่านั้นที่จะกินเลือดเป็นอาหารคล้ายยุง ในประเทศไทยสามารถพบคุ่นได้ในทุกภาคโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ
และภาคใต้ ที่มีลำธารที่มีน้ำไหล เนื่องจากลักษณะถิ่นอาศัยเหล่านี้จำเพาะสำหรับตัวอ่อนของแมลงชนิดนี้ แผลที่คุ่นกัดมักจะมีเลือดไหลซึมออกมา เนื่องจากฟันของคุ่นมีลักษณะคล้ายฟันเลื่อย จากนั้นจะเกิดอาการบวมแดง
อักเสบ และคันตามมา
สำหรับคนที่แพ้มากอาจจะมีไข้ ปวดหัว คลื่นไส้ และมีอาการหอบหืด เรียกว่า (ไข้ริ้นดำ) หรือ Black fly Fever สำหรับ นักท่องเที่ยวที่ชอบท่องเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาตินั้น การจะป้องกันตัวเองจากแมลงเหล่านี้ให้ดีที่สุด เห็นจะต้องพยายามแต่งตัวให้มิดชิดเพื่อไม่ให้คุ่นสามารถสัมผัสผิวได้ ทั้งนี้แม้แต่น้ำมันตะไคร้หอมที่มักจะได้รับความนิยมว่าสามารถป้องกันแมลง หลายชนิดได้ ก็ไม่มีผลต่อเจ้าตัวร้ายขนาดเล็กนี้มากนัก
ที่มาของข้อมูล รศ.ดร.เฉลียว กุวังคะดิลก ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล
